โรคประสาทหูเสื่อม หูอื้อ หูดับ

โรคนี้ถ้าเป็นกับใครจะทรมานมาก ผมเป็นมาสามสี่เดือน แรกๆจะไม่รู้สึกมากนัก มันจะค่อยๆเริ่มอื้อ มากขึ้น มากขึ้น จนทนไม่ได้มันรำคาญมากไม่เจ็บแต่รำคาญเหมือนมีพัดลมมาเป่าอยู่ในหู ซื้อยาหยอดหูมาลอง ลองแล้วลองอีก จนที่สุดทนทรมานไม่ไหว ก็จะต้องไปพบแพทย์ เมื่อตรวจรักษา หมอจะสอบถามอาการ เอากล้องมาส่อง ตรวจดูว่าภายในหูมันมีขี้หูอุดตันมั้ย หรือมีการอักเสพมั้ย ?ไม่มีทั้งสิ้น และลงท้ายก็จะจ่ายยาให้มากิน ยาที่ให้ส่วนมากก็จะเป็นยา ขยายหลอดเลือด ยาเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ยากลุ่มนี้เช่น ยา Serc 16mg หรือยาSermion 10mg ยา Prednisolone5mg ยาเหล่านี้ จะใช้เพื่อรักษาอากรผิดปกติในหลอดเลือด หรืออักเสพ หรือเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพื่อไปเลี้ยงปลายประสาท ซึ่งแพทย์เชื่อว่า ปลายประสาทหูของคนไข้อาจเสื่อม ผมกินยาที่หมอจ่ายมาให้อย่างเคร่งครัด ขนาดยอมอดเหล้าทั้งที่กินมาชั่วชีวิต เออลงทุนอย่างมาก นะเนี่ย ปรากฎว่าไม่ดีขึ้น ผ่านไปสองเดือน อาการยังหนักขึ้นหนักขึ้น

คนเราบางครั้งเมื่อเจ็บป่วยบางครั้งก็ต้องทำใจ ผมเริ่มทำใจแล้วว่า เราจะต้องหูดับไปตลอดชีวิต และจะต้องทนทุกข์มรมานไปตลอด หูที่ต้องอื้อเหมือนมีลมวิ่งเข้าไปตลอดจนนอนไม่หลับ มันรำคาญมาก เคยคิดไปว่า เอ้เราเคยไปทำบาปอะไรมาหรือเปล่า ถึงต้องเป็นแบบนี้ คิดทบทวนว่าชีวิตเราทำชั่วอะไรมาบ้าง มันก็ไม่น่าจะมีนะ เคยแต่ทำดี ทำบุญ"เข้าข้างตัวเอง" แล้วมันเป็นบ้าอะไร จะต้องมาเกิดขึ้นแบบนี้ คิดแล้วก็ต้องพยายามปลงให้ได้ เราเป็นคนทันสมัยอยู่กับไอที เชื่อเรื่องแบบนี้ได้ไง คิดแบบทันสมัยดีกว่า ก็เลยคิดเสียว่า เราก็เหมือนหุ่นยนต์ เมื่อส่วนใดเสียส่วนอื่นก็ยังใช้ได้ แขนขาด ตาบอดหูหนวก เรื่องจิ๊บๆ เออ ทำใจได้แล้ว ดูหนังเทอมิเนเตอร์ ซิ หุ่นมันแขนขาด ตาบอดมันก็ยังทำหน้าที่ของมันได้ เป็นไงเป็นกันอยู่กับมันให้ได้ หูอื้อมันก็ยิ่งหนักขึ้น

ไปหาหมอคนที่สอง ครั้งนี้หมอดูท่าทางจะเก่ง ขนาดเครื่องมือยังหาไม่ค่อยจะเจอ ให้พยาบาลหาอุปกรณ์สารพัด มาวิเคราะห์ ทั้งทุบทั้งจับระดับคลื่นเสียง บอกโรคหูดับหรือ โรคประสาทหูเสื่อมถ้าไม่รีบมาหาหมอภายในสามวัน โอกาสหายน้อยมาก เอ้า เอายาไปกิน ก็ให้ยาแบบเดิมนั่นแหละ คือยาช่วยการไหลเวียนในหลอดเลือด ให้ยามาพนักงานจัดยาก็ซื่อบื้อ เรื่องนี้ต้องขอเตือนว่า พนักงานที่จัดยาตามสถานพยาบาลหรือคลีนิค โรงพยาบาลต่างๆ ควรเป็นเภสัชกร และควรอธิบายเรื่องการใช้ยา อย่างเคร่งครัดนะครับ เพราะบางที่ เขียนบอกสรรพคุณยายังไม่ตรง และไม่อธิบายการใช้ยาอย่างถูกต้อง แทนที่คนไข้จะใช้ยาอย่างมีประสิทธิภาพกลับใช้อย่างไม่ถูกต้อง การรักษาจึงไม่มีประสิทธิผล ดีนะที่ผมระมัดระวังในเรื่องนี้ จึงใช้กูเกิ้ลคนข้อมูลยา และสรรพคุณ ข้อดีข้อเสีย ของยาแต่ละตัว จึงรู้ความจริง

รักษากินยามาอีกสองเดือน ก็ไม่หาย เหมือนเดิม ไม่ไปหาหมอแล้ว หาไปก็คงแค่จ่ายยามาให้เหมือนเดิม ไปหาเภสัชกรที่รู้จักกันดี ปรึกษาเภสัชเอายามากินอีกสองเดือนไม่หาย ยาที่ใช้ก็เป็นยาที่ดีที่สุด แพงที่สุดสำหรับโรคนี้แล้ว คือ Serc เพิ่มขนาดเป็น24mg ไม่ดีขึ้นเลย หมดหวัง

 แต่แล้ววันหนึ่งมีเพื่อนมาหา พอดีมันเป็นหมอ แต่ไม่ใช่หมอคน มันเป็นหมอหมา เออหมอคนรักษาไม่หายเอาหมอหมามารักษาเสียเลย ดีเอาเลย หมอหมาบอกยาที่กินอยู่ทุกวันนี้เลิกเลย เอาของมันดีกว่าว่าแล้วหมอหมาเพื่อนผมก็แบกน้ำลงมา สามสี่ถัง เอ้ย นี่มันอะไรกัน บอกนี่แหละพี่เชื่อผม กินน้ำนี่ไป มันจะไหลซึมเข้าสู่ชั้นเซล เพราะมันคือน้ำที่ผ่านการสลายโมเลกุลให้เล็กลง ด้วยวิธีปั่น เอาลองดู แล้วก็ให้กินอัลฟ่ามิล หรือน้ำข้าว จมูกข้าวธัญพืช อะไรต่างๆว่า ไปไม่อยากเชื่อ แต่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ผมก็กินมันไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้หวังผลอะไรมากมายนัก เพราะยากินสี่ห้าเดือนยังเอาไม่อยู่ นี่มันแค่น้ำปั่นบ้าบอคอแตก มันจะทำอะไรได้ ผมกินน้ำปั่นที่ว่านี่มาสามเดือน ยาเลิกกินไปแล้ว ณ วันที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี่ผมไม่มีอาการหูอื้ออีกเลย ต้องพยายามเงี่ยหูฟังยังไม่ได้ยินเสียงลม ดีขึ้นประมาณ90% ประเมินดูว่า เฮ้ยมันเป็นไปได้อย่างไร คุณพระช่วย น้ำปั่นแอคติโมหรืออะไรเนี่ย ผมยังไม่อยากเชื่อ ว่ามันเป็นเพราะน้ำนี่ แต่น้ำนี่พอดื่มเข้าไปแล้ว ฉี่ทั้งวัน หมอหมาบอกว่า มันจะเข้าไปช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ทุกส่วนของร่างกาย มีผลต่อระบบประสาทที่สูญเสียให้ฟื้นขึ้นกลับมาได้ นอกจากนี้ระบบอวัยวะต่างๆ จะมีน้ำและออกซิเจนให้สู่ระบบเซลล์ มีผลให้ร่างกายฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมหรือเสียให้ฟื้นปรับสภาพขึ้นมาใด้ จริงไม่จริงยังไม่แน่ใจ แต่วันนี้ ผมทดลองมาด้วยตัวเอง ก็ยังต้องอึ้งเหมือนกัน แต่ผมกินน้ำส้มสายชูหมักกับน้ำผึ้งประจำอยู่แล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี แต่เท่าที่ทดสอบมา ก็คิดว่ามันน่าจะดี ก็คงจะทดสอบกันต่อไป ต้องขอขอบคุณหมอหมา นายสัตวแพทย์ อดิศักดิ์ พรหมมา ที่เอาน้ำแอคติโมมาให้ดื่ม เพราะรู้สึกว่าวันนี้ สุขภาพดีขึ้นจริงๆโดยเฉพาะ หูเจ้ากรรมเกือบทำให้เสียเส้น !