วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วางเป้าหมายชีวิต

                                         

                                                                             
 

มีหลายคนที่อาจจะเคยเห็นคนรอบๆข้าง ที่เออร์ลี่รีไทร์หรือเกษียณราชการรัฐวิสาหกิจและอีกมากมาย ส่วนใหญ่แล้ว หลายท่านที่เมื่อหยุดทำงาน ออกจากงานมา ส่วนมากช่วงแรกๆ ก็จะสนุกสนานเบิกบานใจ ที่ได้เงินก้อนใหญ่ที่ได้มาจากการ ออกจากงาน แล้วทำอย่างไร ส่วนใหญ่แล้วสังคมไทย เมื่อได้ทรัพย์สินเงินทองมาก็จะใจดี แจกจ่ายให้ลูกหลานญาติพี่น้อง บางคนซื้อรถซื้อมือถือให้ลูก อยากได้เป็นต้องได้

เมื่อเงินมันไม่ได้มากมายอะไร ที่เหลือเอาใว้ใช้ แต่การใช้ ถ้าบางคนไม่ระมัดระวัง ยามว่างยามเหงา ก็ไปนั่งเฝ้านักร้องเที่ยวได้ทุกคืน ทั้งกินทั้งเที่ยว เพื่อนฝูงก็มากมายเพราะกำลังมีเงินสุดท้าย เงินที่ได้มาก็สลายกลายเป็นลมและความทรงจำ สุดท้ายเมื่อหมดตัวไปไหนไม่ได้ ก็แค่นั่งหงอยเหงาเศร้าซึมเหมือนไก่เป็นโรค จนที่สุด ก็เป็นไปตามวิถีชีวิต ที่ไม่อยากติดตาม นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นตลอดมาของสังคมไทย ถามว่าทำไมไม่เอาเงินเหล่านั้นไปลงทุน คนทุกคนไม่เหมือนกัน บางคนทำงานราชการมาชั่วชีวิต ไม่มีหัวธุรกิจทำไม่เป็น บางคนเอาเงินไปลงทุนซื้อกองทุนตามที่มีคนแนะนำสุดท้ายถูกโกง นี่คือเรื่องจริง มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เพราะการวางแผนชีวิตมันบิดเบี้ยวไร้ทิศไร้ทางไม่มีเป้าหมายที่จะทำอะไร และนี่คือสิ่งที่ผมคิดว่า โครงการอย่างนี้ เงินทองทรัพย์สินของท่านจะไม่หนีไปไหน มีแต่พอกพูนขึ้นมาตามมูลค่าของที่ดิน เมื่อถูกพัฒนาขึ้นมาแล้ว จากไร่ละเก้าแสนเก้า อาจเพิ่มขึ้นมาเป็นสิบเท่าอย่างเป็นไปได้ และระหว่างที่เราได้อยู่ได้กินกับที่ดินผืนนี้ เราก็จะมีรายได้ทุกวัน ทุกนาที พืชผลทางเกษตรของเราจะเติบโตให้เราเก็บเกี่ยวได้ทุกเช้าสายบ่ายเย็น ผมเคยไปเที่ยวต่างจังหวัด เห็นป้าอยู่คนหนึ่งใช้ที่ดินเพียงร้อยตารางวา ปลุกพืชผักสวนครัว ขิงข่าตะไคร้ พริกกะเพรา โหระพา สารพัดทุกวันมีคนมารับ ถามว่าป้าขายได้เท่าไรต่อวัน ป้าบอกห้าหกร้อยบาทต่อวัน นั่นแค่ที่เพียงร้อยตารางวา และนี่แหละคือสิ่งที่เป็นไปได้ จริงๆถ้าเราลงมือทำ ผมเชื่อว่าเราทำได้ทุกคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น